LINE : @JUAD888
×
เมื่ออยากเล่นคาสิโน ให้นึกถึง JUAD888 เว็บพนันออนไลน์ ที่มีเกมส์คาสิโนจากทุกค่าย รวมเอามาไว้ให้เล่นในเว็บเดียว SA GAMING , SEXY GAMING , PG , PRETTY GAMING และ GAMEPLAY อยากเล่นคาสิโนออนไลน์ เซ็กซี่บาคาร่า สล็อต ไฮโล เสือมังกร เกมส์ยิงปลา หรือเกมส์พนันอื่นๆ เรามีทีมงานคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

มือใหม่ต้องรู้ : เทคนิคการเดิมพัน Roulette บนเว็บ Juad888

Roulette เป็นหนึ่งในเกมคาสิโนยอดนิยมที่มีให้เล่นบนเว็บไซต์ Juad888 ซึ่งมีตัวเลือกการเดิมพันที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือผู้เล่นที่มีประสบการณ์ การทำความเข้าใจประเภทของการเดิมพันต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจำนวนมากยังสับสนกับตัวเลือกการเดิมพันทั้งหมดที่มีอยู่ในเกม Roulette

คำถามหนึ่งที่มักพบบ่อยคือ “ฉันสามารถเดิมพันอะไรได้บ้างในเกม Roulette?” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากที่ต้องรู้คำตอบ หากคุณต้องการเล่น Roulette และชนะ แม้แต่ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ยาวนานหลายคน ก็ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการเดิมพันใน Roulette ทำงานอย่างไร ในขณะที่บางคนอาจต้องการเคล็ดลับเกี่ยวกับการเดิมพันประเภทที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยม

ในบทความนี้ เราจะอธิบายรายการการเดิมพัน Roulette อย่างครบถ้วน เป็นภาพรวมที่จะช่วยให้คุณเข้าใจทุกอย่างตั้งแต่การเดิมพันภายในและภายนอกพื้นฐาน ไปจนถึงตัวเลือกขั้นสูงอย่าง Neighbor Bets, Call Bets, Final Bets และอื่นๆ อีกมากมาย

ประเภทการเดิมพัน Outside Bets

ในเกม Roulette นั้น มีประเภทของการเดิมพันที่หลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่ Inside Bets และ Outside Bets โดยในส่วนนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ Outside Bets กันอย่างละเอียด ซึ่งเป็นการเดิมพันที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า Inside Bets และเหมาะสำหรับผู้เล่นมือใหม่ที่ต้องการทำความเข้าใจกับกฎและวิธีการเล่นเกม Roulette

1.    Red/Black, Odd/Even และ High/Low

การเดิมพัน Red/Black, Odd/Even และ High/Low เป็นการเดิมพันที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเกม Roulette เนื่องจากมีโอกาสในการชนะสูงถึง 50% และจ่ายผลตอบแทนเท่ากับจำนวนเงินที่เดิมพัน (1:1)

Red/Black เป็นการเดิมพันว่าลูกบอลจะตกลงในช่องสีแดงหรือสีดำ ซึ่งมีอยู่ 18 หมายเลขในแต่ละสี (ยกเว้นเลข 0 ที่เป็นสีเขียว)

Odd/Even คือการทายว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นเลขคี่หรือเลขคู่ โดยเลข 0 จะไม่นับรวมในการเดิมพันประเภทนี้

High/Low เป็นการเดิมพันว่าลูกบอลจะตกในช่วงเลข 1-18 (Low) หรือ 19-36 (High) ซึ่งเลข 0 ก็จะไม่นับรวมเช่นกัน

ด้วยโอกาสในการชนะที่สูง การเดิมพันประเภทนี้จึงเป็นที่นิยมสำหรับการใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น Martingale System ซึ่งเป็นการเพิ่มเงินเดิมพันเป็นสองเท่าหลังจากการสูญเสีย เพื่อให้ได้กำไรเท่ากับยอดเริ่มต้นเมื่อชนะ

2.    Column Bets

Column Bets เป็นการเดิมพันว่าลูกบอลจะตกในคอลัมน์ใดคอลัมน์หนึ่ง จากทั้งหมด 3 คอลัมน์บนตาราง ซึ่งแต่ละคอลัมน์จะมีตัวเลข 12 หมายเลข หากเดิมพันถูก ผู้เล่นจะได้รับเงินในอัตรา 2:1 เท่าของเงินเดิมพัน

ในรูเล็ตแบบมาตรฐาน คอลัมน์มักจะเรียงในแนวตั้ง แต่สำหรับเกมรูเล็ตแบบไลฟ์คาสิโนส่วนใหญ่ คอลัมน์จะปรากฏในแนวนอน โดยมีตัวเลขดังนี้

  • คอลัมน์ที่ 1: 1, 4, 7, 10, 13, 16, 19, 22, 25, 28, 31, 34
  • คอลัมน์ที่ 2: 2, 5, 8, 11, 14, 17, 20, 23, 26, 29, 32, 35
  • คอลัมน์ที่ 3: 3, 6, 9, 12, 15, 18, 21, 24, 27, 30, 33, 36

3.    Dozens Bets

Dozens Bets คล้ายกับ Column Bets ตรงที่เป็นการเดิมพันกลุ่มของตัวเลข 12 หมายเลขด้วยกัน แต่จะเป็นการแบ่งกลุ่มตัวเลขตามช่วง 1-12 (1st Dozen), 13-24 (2nd Dozen) และ 25-36 (3rd Dozen) ซึ่งอัตราการจ่ายก็จะเป็น 2:1 เท่าของเงินเดิมพันเช่นกัน

การเดิมพัน Dozens นั้นเป็นอีกทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากผู้เล่น เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า Red/Black, Odd/Even และ High/Low แม้ว่าจะมีโอกาสในการชนะเพียง 32.4% ในรูเล็ตยุโรป และ 31.6% ในรูเล็ตอเมริกัน

4.    เปอร์เซ็นต์ความน่าจะเป็นในการชนะ Outside Bets

ความน่าจะเป็นในการชนะ Outside Bets จะแตกต่างกันไประหว่าง รูเล็ตยุโรป กับ รูเล็ตอเมริกัน เนื่องจากวงล้อรูเล็ตอเมริกันจะมีเลข 00 (Double Zero) เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะเพิ่มความได้เปรียบให้กับเจ้ามือ

สำหรับ รูเล็ตยุโรป ซึ่งมีตัวเลข 0-36 รวมทั้งหมด 37 หมายเลข จะมีความน่าจะเป็นในการชนะ ดังนี้

  • Red/Black, Odd/Even, High/Low มีโอกาสชนะ 48.60%
  • Column Bets และ Dozens Bets มีโอกาสชนะ 32.40%

ในขณะที่ รูเล็ตอเมริกัน ซึ่งมีตัวเลขเพิ่มเป็น 0, 00, 1-36 รวมทั้งหมด 38 หมายเลข มีความน่าจะเป็นในการชนะ ดังนี้

  • Red/Black, Odd/Even, High/Low มีโอกาสชนะ 47.40%
  • Column Bets และ Dozens Bets มีโอกาสชนะ 31.60%

จะเห็นได้ว่าการเพิ่มเลข 00 ในวงล้ออเมริกันทำให้ผู้เล่นมีโอกาสชนะลดลงประมาณ 1-2% ในทุกประเภทของ Outside Bets

5.    สรุป Outside Bets

สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเล่น Roulette นั้น การเดิมพันประเภท Outside Bets เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำและให้โอกาสในการชนะที่สูงกว่า 50% ในกรณีของ Red/Black, Odd/Even และ High/Low ส่วน Column Bets กับ Dozens Bets นั้นมีโอกาสในการชนะประมาณ 30% แต่จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าถึง 2 เท่า

อย่างไรก็ตาม หากต้องการชนะในระยะยาว ผู้เล่นควรวางแผนการเดิมพันอย่างรอบคอบ และพิจารณาใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การจัดการทุน (Bankroll Management) หรือการปรับเปลี่ยนขนาดเงินเดิมพันตามผลแพ้ชนะ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

นอกจากนี้ ผู้เล่นควรศึกษาความแตกต่างระหว่างรูเล็ตยุโรปและอเมริกัน เนื่องจากอัตราความได้เปรียบของคาสิโนและความน่าจะเป็นในการชนะของผู้เล่นจะแตกต่างกัน โดยแนะนำให้เลือกเล่นรูเล็ตยุโรปมากกว่า เพราะมีเปอร์เซ็นต์ในการชนะที่สูงกว่า

ประเภทการเดิมพัน Inside Bets และ Call Bets

นอกเหนือจากการเดิมพันภายนอก (Outside Bets) แล้ว รูเล็ต ยังมีตัวเลือกการเดิมพันภายใน (Inside Bets) ที่หลากหลายและให้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่ก็มีความเสี่ยงมากกว่าเช่นกัน และสำหรับผู้เล่นที่ชื่นชอบการเดิมพันแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ยังมีตัวเลือกพิเศษอย่าง Call Bets ที่น่าสนใจ ซึ่งเราจะมาทำความรู้จักกับทั้งสองประเภทนี้กันอย่างละเอียด

1.    ประเภทการเดิมพัน Inside Bets

Inside Bets คือการเดิมพันบนตัวเลขใดเลขหนึ่ง หรือกลุ่มของตัวเลขบนตารางวงล้อรูเล็ต ซึ่งมีรูปแบบต่างๆ ดังนี้

  • Straight Up เป็นการวางชิปบนตัวเลขใดเลขหนึ่ง (เช่น เลข 7) ซึ่งมีโอกาสชนะ 35:1 แต่มีความเสี่ยงสูงที่สุดเมื่อเทียบกับการเดิมพันแบบอื่น
  • Split คือการวางชิปบนเส้นกั้นระหว่าง 2 ตัวเลขที่อยู่ติดกัน (เช่น 7/8 หรือ 10/11) ซึ่งจะชนะในอัตรา 17:1
  • Corner เป็นการเดิมพัน 4 ตัวเลขที่อยู่ใกล้กัน โดยวางชิปบนจุดตัดของเส้น (เช่น 10/11/13/14) มีโอกาสชนะ 8:1
  • Street หมายถึงการเดิมพัน 3 ตัวเลขในแถวเดียวกันบนตาราง (เช่น 7/8/9 หรือ 28/29/30) ซึ่งจะจ่ายในอัตรา 11:1
  • Six Line คือการรวม 2 Street เข้าด้วยกัน เพื่อเดิมพันกับตัวเลข 6 หมายเลขที่ติดกัน (เช่น 31/32/33/34/35/36) ซึ่งให้ผลตอบแทน 5:1
  • Basket หรือ First Four เป็นการเดิมพันเฉพาะในรูเล็ตอเมริกัน ซึ่งจะเดิมพันกับเลข 0, 00, 1, 2 และ 3 พร้อมกัน โดยการวางชิปที่มุมของ 0 และ 1 ให้ครอบคลุมทั้ง 4 ตัวเลข ซึ่งจ่ายผลตอบแทน 6:1
  • Snake Bet หรือ Red Snake เป็นการเดิมพันสีแดงทั้ง 12 ตัวเลข ได้แก่ 1, 5, 9, 12, 14, 16, 19, 23, 27, 30, 32 และ 34 ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างหายาก โดยผู้เล่นสามารถเดิมพัน Snake ได้ทั้งแบบ Single Snake (6 Splits) หรือ Double Snake (12 Splits) ที่ครอบคลุมตัวเลขทั้งหมด

ความน่าจะเป็นในการชนะ Inside Bets จะแตกต่างกันไประหว่างรูเล็ตยุโรปและอเมริกัน เนื่องจากวงล้ออเมริกันมีเลข 00 เพิ่มเข้ามา ในรูเล็ตยุโรป โอกาสชนะ Straight Up อยู่ที่ 2.70%, Split 5.40%, Corner 10.80%, Street 8.10%, Six Line 16.20%, Basket 10.80% และ Snake 32.40% ส่วนในรูเล็ตอเมริกัน โอกาสชนะ Straight Up คือ 2.60%, Split 5.30%, Corner 10.50%, Street 7.90%, Six Line 15.80%, Basket 13.20% และ Snake 31.60%

2.    ประเภทการเดิมพัน Call Bets

สำหรับผู้ที่ต้องการความท้าทายมากขึ้น Call Bets เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งพบได้ในรูเล็ตยุโรปและฝรั่งเศส โดยจะแสดงบนส่วน Racetrack ของโต๊ะ ซึ่งจัดเรียงหมายเลขตามลำดับของวงล้อจริง การเดิมพัน Call Bets จะแบ่งกลุ่มตัวเลขตามตำแหน่งบนวงล้อ และมีหลายรูปแบบย่อยให้เลือก

  • Voisins du Zero ครอบคลุม 17 เลขที่อยู่ใกล้เคียงกับเลข 0 ได้แก่ 22, 18, 29, 7, 28, 12, 35, 3, 26, 0, 32, 15, 19, 4, 21, 2, 25 ซึ่งจะใช้ชิป 9 อัน เดิมพัน Straight Up 2 ชิปบน 0/2/3, Corner Bet 2 ชิปบน 25/26/28/29 และ Split 1 ชิปบนแต่ละคู่ของ 4/7, 12/15, 18/21, 19/22, 32/35
  • Jeu Zero คือการเดิมพันกับเลข 7 ตัว รอบๆ เลข 0 โดยใช้ชิป 4 อัน เดิมพัน Straight Up 1 ชิปบน 26, Split 1 ชิปบน 0/3, 12/15, 32/35
  • Tiers du Cylindre แปลว่า 1 ใน 3 ของวงล้อ ซึ่งเป็นการเดิม 12 ตัวเลข ได้แก่ 27, 13, 36, 11, 30, 8, 23, 10, 5, 24, 16, 33 โดยวาง 6 Splits บน 5/8, 10/11, 13/16, 23/24, 27/30, 33/36
  • Orphelins ประกอบด้วยตัวเลขที่ไม่ได้รวมอยู่ใน Voisins และ Tiers ได้แก่ 1, 6, 9, 14, 17, 20, 31, 34 โดยเดิมพัน Straight Up 1 อันบน 1 และ Split บน 6/9, 14/17, 17/20, 31/34
  • Neighbors เป็นการเดิมพันแบบเลือกตัวเลขได้เอง โดยใช้ตัวเลขหลักที่เลือก บวกกับ 2 ตัวเลขที่อยู่ติดกันทั้งสองข้างบนวงล้อรูเล็ต เช่น “0 and the Neighbors” จะเดิมพันบนเลข 3, 26, 0, 32, 15

3.    Final และ Full Complete Call Bets

ในกลุ่ม Call Bets นั้น ยังมีการเดิมพันแบบ Finals หรือ Finales ที่น่าสนใจอีกด้วย

  • Final en Plain เป็นการเดิมพัน Straight Up บนตัวเลขทั้งหมดที่ลงท้ายด้วยเลขเดียวกัน เช่น “Final 5” คือการเดิมพันบนเลข 5, 15, 25, 35
  • Finales a Cheval คือการรวม 2 Final en Plain เข้าด้วยกัน และเดิมพันเพิ่มเติมบน Splits ที่เกี่ยวข้อง เช่น “Finales 0/3” จะเดิมพันบน 0, 3, 10, 13, 20, 23, 30, 33 แบบ Straight Up และ Splits บน 0/3, 10/13, 20/23, 30/33

นอกจากนี้ ยังมีการเดิมพัน Full Complete ซึ่งจะครอบคลุมทุก Inside Bets ที่เกี่ยวข้องกับเลขหลักที่ระบุ โดยจะเดิมพัน 1 ชิปบน Straight Up, 2 ชิปบน Splits, 2 ชิปบน Corner, 2 ชิปบน Street และ 2 ชิปบน Six Line

4.    วิธีการวางเดิมพัน Inside และ Call Bets

วิธีการวางชิปสำหรับการเดิมพัน Inside นั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา โดยวางชิปบนตำแหน่งตัวเลขเป้าหมายบนตาราง เช่น วางตรงกลางช่องสำหรับ Straight Up, วางบนเส้นกั้นระหว่างตัวเลขสำหรับ Split, วางบนมุมที่มีเลข 4 ตัวมาบรรจบกันสำหรับ Corner, วางที่ขอบด้านใดด้านหนึ่งของแถวตัวเลขสำหรับ Street และวางที่จุดตัดระหว่างสองแถวสำหรับ Line

ในส่วนของ Call Bets นั้น สำหรับคาสิโนจริง ผู้เล่นจะต้องบอกเจ้ามือก่อนว่าต้องการเดิมพันแบบใด แต่หากเป็นการเล่นออนไลน์ ส่วนใหญ่จะมีพื้นที่สำหรับ Call Bets อยู่บนโต๊ะให้คลิกเลือกได้ทันที ซึ่งจะสะดวกกว่า

5.    สรุป Inside Bets และ Call Bets

การเดิมพัน Inside Bets และ Call Bets เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นและผลตอบแทนที่สูงขึ้น แม้ว่าจะมีความเสี่ยงมากกว่าการเดิมพัน Outside ก็ตาม อย่างไรก็ดี ผู้เล่นควรศึกษารูปแบบต่างๆ ให้เข้าใจถ่องแท้ และวางแผนการเดิมพันอย่างรอบคอบ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือใหม่ ไม่แนะนำให้เริ่มต้นด้วยการเดิมพัน Inside หรือ Call Bets เพราะมีโอกาสเสี่ยงที่จะสูญเงินเดิมพันทั้งหมดได้ง่ายกว่า ควรเริ่มต้นจากการเดิมพัน Outside ก่อน แล้วค่อยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การเดิมพันตามประสบการณ์และงบประมาณที่เหมาะสม

นอกจากนั้น ควรหลีกเลี่ยงการเดิมพันแบบ Basket หรือ Top Line ในรูเล็ตอเมริกัน เพราะเป็นตัวเลือกที่แย่ที่สุด ด้วยอัตราต่อรองเพียง 6:1 และอัตราเปรียบเสียเปรียบ (House Edge) สูงถึง 7.9% เมื่อเทียบกับเกมมาตรฐานที่ 5.3% ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรเลือกเล่นรูเล็ตยุโรปที่มีความได้เปรียบมากกว่า (House Edge 2.7%)